สเตียรอยด์ คืออะไร? รู้ไว้ไม่เสียหาย ก่อนผิวพังระยะยาว แบบไม่รู้ตัว!!

สเตียรอยด์ คืออะไร? รู้ไว้ไม่เสียหาย ก่อนหลงผิดไปใช้แล้วหน้าพัง!

สเตียรอยด์ คืออะไร

     สเตียรอยด์ เป็นกลุ่มฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง ในปริมาณเพียงเล็กน้อย เพื่อทำหน้าที่ในกระบวนการต่างๆของร่างกายให้เป็นปกติ ตัวอย่าง เช่น ต้านการอักเสบ ลดอาการปวด ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเป็นปกติ  เป็นต้น เนื่องด้วยคุณสมบัติของสารสเตียรอยด์ที่จำเป็นต่อร่างกาย จึงทำให้มีการผลิตสเตียรอยด์สังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ทางการแพทย์ มีหลายชนิด และหลายรูปแบบทั้งยาฉีด ยาเม็ด และยาครีม

     สำหรับสเตียรอยด์สังเคราะห์ 2 ชนิดที่ตรวจพบว่ามักนำมาปนปลอมในยาแผนโบราณ มีชื่อว่า เด็กซาเมทาโซน (Dexamethasone) และ เพร็ดนิโซโลน (Prednisolone) เป็นยาแผนปัจจุบันในรูปแบบยาเม็ด โดยมีการนำมาบดผสมในยาแผนโบราณ เนื่องจากสเตียรอยด์มีฤทธิ์ต่อหลายระบบในร่างกาย ระยะแรกที่ได้รับสเตียรอยด์อาจรู้สึกว่าทำให้อาการโรคดีขึ้น ผู้รับประทานจึงหลงเชื่อและรับประทานต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากเป็นการได้รับยาที่ไม่ได้บ่งใช้โดยแพทย์ เนื่องจากสเตียรอยด์เป็นยาอันตราย มีผลข้างเคียงมาก การใช้ยาต้องมีการติดตามและปรับขนาดยาให้เหมาะสม มักไม่ใช้ต่อเนื่องนานโดยไม่จำเป็นและแพทย์ต้องดูแลใกล้ชิด

โทษของ สเตียรอยด์

สเตียรอยด์ สังเคราะห์เป็นสารที่มีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายทุกระบบ ดังนั้นการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่อันตราย เช่น

     เมื่อร่างกายได้รับสารสเตียรอยด์เป็นเวลานานร่างกายจะหยุดสร้างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติ ที่เคย สร้างเอง ดังนั้นเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันจะทำให้ร่างกายขาดสเตียรอยด์อย่างฉับพลัน อาจเกิดภาวะช็อก หมดสติและเสียชีวิตได้หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ดังนั้นหากสงสัยว่ากินสเตียรอยด์จากการซื้อมาเอง ไม่ใช่การรักษาโดยหมอ อย่าหยุดยาเอง ขอให้รีบไปปรึกษาหมอให้เร็วเพื่อหาทางลดยา

ครีม สเตียรอยด์

ความน่ากลัวของการใช้ครีมที่ผสมสเตียรอยด์ อันตรายกับผิวอย่างไร

     ผู้ที่ใช้ครีมชนิดนี้เป็นเวลานานจนหน้าติดสเตียรอยด์ จะเกิดผลเสียตามมา คือ สารชนิดนี้จะทำให้ผิวหน้าของผู้ใช้บางลง เมื่อโดดแสงแดดก็จะส่งผลให้มีอาการแสบร้อนบนใบหน้า และยังทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังเปราะบางและแตกได้ง่าย รวมถึงยังมีอาการสิวและผื่นอักเสบขึ้นมาบริเวณรอบๆปากได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่ติดสเตียรอยด์นั้นจะไม่สามารถที่จะหยุดใช้ยาได้ เพราะหากหยุดใช้ยาเหล่านี้ก็จะเกิดอาการแดงที่บริเวณใบหน้าและการอักเสบของผิวก็จะมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษาให้หายได้ยากมาก นอกจากนั้นหากเราได้ใช้ในปริมาณที่มากเกินไปก็จะทำให้ส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในของเราโโยตรงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ต่อมหมวกไตผิดปกติที่มักจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ และยังอาจส่งผลให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติได้อีกด้วย คลิก!อ่านเกร็ดความรู้เพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลจาก :

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักยาและวัตถุเสพติด

และ

http://www.steroidsocial.org/steroid2.html

icon email