น้ำตาล
น้ำตาล เป็นแหล่งพลังงานที่ดีมากๆ แต่จริงๆ แล้วร่างกายไม่ต้องการน้ำตาลที่เราเติมในรูปของผง ในรูปของน้ำเชื่อม ในรูปของเกร็ด เหตุผลเพราะว่าร่างกายของเราได้น้ำตาลมาจากการย่อยแป้ง จากการกินผลไม้แล้ว อ้าวว! จริงๆ แล้วเราต้องปรุงกับข้าวด้วยน้ำตาลไหม? คำแนะนำทางโภชนาการ คือ ไม่ต้องปรุง แต่ถามว่าไม่ปรุงแล้วกินได้ไหม ตอบเลยว่า ไม่ได้! เพราะอาหาร หรือเครื่องดื่มนั้นจะจืดมาก
ทางโภชนการเลยมีโควต้าไว้ให้เพื่อการรับประทานทานอาหารให้ถูกปากมากขึ้น โดยเราสามารถใช้น้ำตาลในการปรุงอาหารของเราได้ไม่เกิด 6 ช้อนชา ต่อวัน ดังนั้นแปลว่าในกับข้าวที่เราทำ โควต้าหมดแล้วนะ ถ้าวันนี้เรากินน้ำหวาน 1 แก้ว แปลว่า เรารับน้ำตาลเกิน ถ้าไลฟ์สไตล์ของเรา(ชอบ)กินน้ำหวานบ่อยๆ หรือบริโภคขนมที่มีน้ำตาลสูง บอกได้เลยว่ามีแนวโน้ม ว่าคุณจะเป็นโรค คุณจะน้ำหนักขึ้น แนวโน้มความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจและโรคเบาหวานสูงขึ้น ตามลักษณะของอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวัน หวานมาก ยิ่งกินยิ่งอร่อย แต่กินบ่อยๆ ร่างกายไม่โอเคแน่นอน
เกลือ
เกลือ ถ้าบริโภคมากเกินไปมีผลมากในเรื่องของความดัน เรื่องไต และสิ่งที่น่ากลัวมากก็คือ มะเร็งกะเพราะ ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะไม่ให้พูดกันว่า กินเกลือมาก เสี่ยงการเป็นมะเร็งกะเพราะสูง (นะ) แต่ข้อมูลจาก ตปท. อย่างคนเกาหลี คนญี่ปุ่น ชอบกินของดอง จะมีข้อมูลในเรื่องของมะเร็งช่องคอ กะเพราะ หลอดอาหารสูงกว่าประเทศอื่น
บ้านเราเองก็มีของหมักดอง ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงดอง ผักกาดดอง ปลาเค็ม ไข่เค็ม กะปิ พวกนี้ก็เป็นอาหารที่มีปริมาณเกลือสูง ดังนั้นในบ้านเราก็ต้องระวังอาหารที่มีเกลือแฝงอยู่ด้วยเหมือนกัน ปกติแล้วตามหลักโภชนาการแนะนำให้ใส่เกลือในอาหารไม่เกิน 1 ช้อนชา เกลือ ในชีวิตประจำวันเรามีที่ไหนบ้างล่ะ! พวกน้ำจิ้ม ซีอิ้ว มะเขือเทศ ซอสหอยนางรมพวกนี้ ใช่หมดเลย ควรจะบริโภคอยู่ที่ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง ต่อวัน ทำกับข้าว ทอดผัดอร่อยไหม ไม่อร่อยสักอย่าง
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหันมาใส่ใจการปรุงอาหาร ด้วย #เกลือ #น้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยความปรารถนาดีจาก BSL Clinic นะคะ
#เกร็ดความรู้เพื่อสุขภาพ #สุขภาพดีเริ่มที่เรา
