ฟิลเลอร์คาง เสริมความมั่นใจ เพื่อรูปหน้าที่ดี โหวงเฮ้งที่ใช่
ใบหน้าเป็นด่านหน้า คางก็เป็นส่วนหนึ่งของใบหน้านั้นเช่นกัน.. คาง อย่าคิดว่าไม่สำคัญเพราะถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่จำทำให้คุณมีโครงหน้าที่ดูดี มีโหวงเฮ้งที่เจ๋งหรือไม่ คางเป็นตัวเสริมที่ช่วยได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องรูปหน้า ฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าคุณให้ดูดีขึ้นได้
รูปหน้าของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นการเสริมคางเพื่อทำให้ใบ้หน้าเราดูโดดเด่น ก็ต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน ไม่ใช่อยากจะเสริม อยากจะเติม ยากจะเพิ่ม ยังไงก็ได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้คำนวนว่า ควรเสริมคางแบบไหนถึงจะทำให้หน้าออกมาดูสมส่วนและสวยสมวัย
“คาง” สวยแบบ 3 มิติ ทั้งหน้าตรงและด้านข้าง มองด้านไหนก็โฉบเฉี่ยวกว่าใครแน่นอน มองกี่ทีก็โดนใจ ด้วยทีมแพทย์ BSL Clinic ด้วยมีความเข้าใจกับส่วนประกอบของใบหน้า ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ ขององค์ประกอบหน้า ที่ต้องรับกับทรงคาง ได้แก่ หน้าผาก -จมูก -กรอบหน้า จะผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ก็ทำได้ไม่มีข้อจำกัด
เมื่อมองมุม 90 องศา ลักษณะของคางควรโค้งมน คม ไม่สั้นไม่ยาวเกินไป ซึ่งลักษณะของผู้ชายและผู้หญิง ก็จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะโครงหน้าของแต่ละคน
ผู้หญิงก็จะมีความต้องการลักษณะของคางที่ทำออกมาแล้วดูทำให้หน้าเรียวสวยดูอ่อนหวาน น่าทะนุถนอม ดูหน้าเด็กอยู่ตลอดเวลา การออกแบบให้คางของผู้หญิงนั้น มนโค้ง และเรียวยาวลง ไม่เน้นให้เป็นคางทรงที่แข็งแรง แต่เป็นลักษณะ หน้าเรียวมน V-Shape หรือบางคนที่ไม่ต้องการลักษณะหน้าที่ V เราก็สามารถออกแบบคางให้เป็นลักษณะ U Shape ได้ และทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด
ซึ่งในผู้ชายเองก็มีความต้องการลักษณะของคางแตกต่างกันออกไป อย่างบางคนต้องการให้โครงหน้ามีลักษณะแข็งแรง เรียกว่าแบบ Masculine looking ดูแข็งแรง คมเข้ม เพราะกรอบหน้าแบบนี้จะมีความคมชัดมาก มีในส่วนของมุมเหลี่ยม และลักษณะของคางตัด แต่จะต้องเป็นแนวเดียวกันไม่มีจุดบุ๋มที่คาง และกรอบหน้า ถ้ามีลักษณะของคางกรอบหน้าที่ดูมน คางที่รับกับส่วนของหน้าที่ค่อนข้างเรียวทำให้โครงหน้ามีความอ่อนโยน เพื่อให้ความรู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นกันเอง
ฉะนั้นการออกแบบคางให้เหมาะสมลงตัวกันกับกรอบหน้า และรับกับจมูก หากมองจากด้านข้างแล้วทำการลากเส้นผ่าน ระหว่างปลายจมูกถึงปลายคาง คางที่ยื่นออกมาพอเหมาะและโค้งได้มุมรับกับจมูกและริมฝีปาก เป็นเส้นตรงเดียวกันที่มีความสมส่วนลงตัวกันพอดี ถึงเป็นลักษณะคางที่มองได้ข้างก็สวยสมบูรณ์แบบ
ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า จึงมีการเสริมคางแบบทีไม่ต้องทำการผ่าตัด ก็สามารถเสริมได้ คือ การใช้ ไฮยาลูโรนิค แอสิด (Hyaluronic acid) หรือที่เราคุ้นชินได้ยินกันบ่อยๆว่า Filler ที่มีความคงตัวสูง ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ไม่ทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นำมาเสริมมิติคางให้ดู โค้ง มน ยาว ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ
แล้วจุดที่จะเสริมคางให้ดูดีดูแล้วราศีมามีจุดไหนกันบ้าง
- จุดที่ 1 Mental crease แก้ไขร่องบุ๋มใต้ริมฝีปาก เพื่อเป็นตัวพยุงริมฝีปาก ยกมุมปาก และทำให้คางโค้งมน ดูเชิดงอนสูงขึ้น
- จุดที่ 2 Chin Apex (จุดนี้สำคัญที่สุด) จุดที่สามารถเพิ่มความยาวให้คางได้ เป็นจุดนูนสุดของคางและเป็นจุดตรงกลางของใบหน้า โดยลากผ่านระหว่างจมูก ริมฝีปาก เพื่อปรับให้คางนั้นมีความยาวที่สมส่วนกันระหว่างด้านซ้ายและขวาดังนั้นแพทย์จึงต้องมีความแม่นยำอย่างสูง และปรับอัตราส่วนของหน้าให้เป็น 1/3 ตามหลัก Golden Ratio เพื่อให้รูปหน้าดูอ่อนกว่าวัย เราจะไม่ปรับให้คางดูยาวเกินไป (ในคนเอเชีย) โดยจะลดความยาวลง 20 % ของ 1 ใน 3 อัตราส่วนของช่วงระหว่างปลายจมูกถึงปลายคาง
- จุดที่ 3 จุดที่ไว้คอยช่วยพยุงรูปคางให้สมส่วน
- จุดที่ 4 เป็นจุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง เปลี่ยนมิติของคาง จากคางที่ดูหักลง ให้ดูโค้งงอนขึ้น ให้ได้ตามหลักของ ESTHETIC LINE ซึ่งทำให้รับกับจมูก ปาก และคาง เป็นเส้นตรงเดียวกัน ดังนั้น ถ้าเราปรับคางไม่สมส่วน ยาวเกินไปก็จะทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น ลักษณะคางแม่มด
- จุดที่ 5 ใช้สำหรับผู้ชายเท่านั้น ที่ต้องการให้มีลักษณะของความเข้มแข็ง คม เหมาะกับคนไข้ต่างชาติ อเมริกา ยุโรป ที่ต้องการความเหลี่ยม มุม เพิ่มความคมของกรอบหน้า
- จุดที่ 6 จุดแก้ร่องน้ำหมาก หรือร่องแก้มส่วนล่าง ช่วยพยุงไขมันบริเวณกระเปราะแก้มให้ดูยกกระชับขึน